Q&A 5 คำถาม ว่าทำไมบางนา ถึงเป็นทำเลทองแห่งใหม่ที่มีศักยภาพ
แชร์บทความ:
Share:
ถ้าถามว่าทำเลชานเมืองไหนมีศักยภาพ และมีการเจริญเติบโตมากที่สุด คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทำเลย่าน “บางนา” ต้องอยู่ใน List ของใครหลายคนแน่นอน เพราะด้วยปัจจัยแวดล้อมหลายอย่างด้วยกัน ทั้งการเดินทางบนถนนเส้นหลัก ที่สามารถเชื่อมต่อเส้นรองได้หลายเส้นทาง ขึ้นลงทางด่วนได้สะดวก รวมถึงการขยายของรถไฟฟ้าสายสีเขียว (อ่อนนุช-แบริ่ง และ แบริ่ง-สมุทรปราการ) และรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายในอนาคต ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และที่สำคัญยังเป็นศูนย์รวมของโครงการ Mega Projects หลายต่อหลายโครงการด้วยกัน
วันนี้ Property Perfect เลยอยากจะพาทุกคนไปสำรวจทำเลทองแห่งใหม่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Prime Location หรือ ทำเลทองของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามเข้ามาสำรวจพร้อมกันได้เลยค่ะ
Q 1 : “บางนา” มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันจริงรึเปล่า ?
A : ขึ้นชื่อว่า “บางนา” จัดว่าเป็นทำเลที่เป็นศูนย์กลางของห้างสรรพสินค้า และสาธารณูปโภคครบครันรวมไว้บนทำเลแห่งนี้ โดยย่านบางนามี Landmark ที่สำคัญอย่าง MEGA และ IKEA บางนา, Central บางนา และ Central Village ที่คอยรองรับการใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายของผู้คนในย่านนั้น รวมถึงผู้คนที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียงโดยรอบ
ไม่เพียงแค่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และ Luxury Outlet เท่านั้น บนทำเลบางนา ยังแวดล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญอย่างศูนย์ประชุม ไบเทค บางนา, สถาบันการศึกษา และโรงพยาบาลชั้นนำ พร้อมกันนั้นตลอด 2 ฝั่งถนนยังรายล้อมไปด้วยอาคารพาณิชย์ที่ประกอบธุรกิจหลากหลาย ทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านสะดวกซื้อ
ในอนาคตอันใกล้ทำเลบางนาจะถูกยกระดับให้กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและธุรกิจแห่งใหม่ หรือ New CBD ทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ อย่างเต็มรูปแบบด้วย โครงการ MEGA Projects ขนาดใหญ่ หลากหลาย ประกอบด้วย
Bagkok Mall
อาณาจักรศูนย์การค้า ที่อยู่อาศัย และออฟฟิศแบบครบวงจร ระดับ Flagship Mixed-Use Project พัฒนาโดย The Mall Group บนพื้นที่มากกว่า 100 ไร่ ตั้งอยู่บนบริเวณจุดตัด ถนนบางนา-ตราดกับสุขุมวิท เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว สถานีอุดมสุข และบางนา คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565-2566
Mega City Bangna
โครงการต่อเนื่องจากบริเวณเดียวกับ Mega Bangna และ IKEA ในปัจจุบัน โดยเป็นโครงการประเภท Mixed- Use บนพื้นที่ 400 ไร่ บนถนนบาง-ตราด ภายในโครงการจะพัฒนาเป็นโครงการต่างๆ โดยจะเริ่มพัฒนาไปทีละโซน คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการ ประมาณปี 2575 โดยประกอบไปด้วยศูนย์การค้า, โรงเรียนนานาชาติ ดิษยะศริน อินเตอร์เนเชอร์แนล เพร็พพะทอรี สคูล แบงค็อก, ออฟฟิศ, โรงแรม และศูนย์การประชุม จนไปถึงที่พักอาศัย
The Forestias
เป็นโครงการ Mixed-Use ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ซึ่งเป็นเมืองต้นแบบแห่งแรกของโลก กับแนวความคิดการผสมผสานป่าเข้ากับเมือง ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม.7 บนพื้นที่เกือบ 400 ไร่ โดยจะเนรมิตฝืนป่าขนาดใหญ่ พื้นที่กว่า 30 ไร่ ไว้ที่ใจกลางของโครงการ โดยภายในโครงการ นอกจากจะมีคอนโดมิเนียม และบ้านพักอาศัยแล้ว ยังแวดล้อมไปด้วยโครงการเชิงพาณิชย์ Community, Center, อาคารสำนักงาน, ศูนย์สุขภาพ, Serviced Apartment และ Town Center อีกด้วย คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565
Central Village
เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชยกรรมแบบผสม โดย บริษัท ซีพีเอ็น วิลเลจ จำกัด บนเนื้อที่ 100 ไร่ บนถนนสุวรรณภูมิ 3 ประกอบด้วยศูนย์การค้าและโรงแรม ตั้งเป้าจับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศกว่า 2 ล้านคนต่อปี ด้วยจุดเด่นด้านทำเลที่ใช้เวลาเดินทางเพียง 5 นาทีจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ 45 นาทีจากใจกลางกรุงเทพมหานคร
Siam Premium Outlet
เป็นโครงการใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ของ บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน จำกัด โดยโครงการประกอบด้วยร้านค้าประมาณ 200 ร้าน มีพื้นที่อาคารรวมทั้งหมด ประมาณ 50,000 ตารางเมตร
Simon Property Group เป็นจำของ Premium Outlet จำนวน 96 แห่งทั่วโลก ในจำนวนนี้ 15 แห่ง อยู่ในเอเชีย ซึ่งได้แก่ 9 แห่งในญี่ปุ่น 4 แห่งในเกาหลี และ 2 แห่งในมาเลเซีย ซึ่งการร่วมทุนระหว่างกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ และ Simon ถือเป็นครั้งแรกในไทย และประเทศที่ 4 ในเอเชีย
Q 2 : “บางนา” เดินทางสะดวกจริงไหม ?
A : สำหรับการเดินทางบนทำเลบางนา ถนนหลักของทำเลย่านนี้ คือ ถนนบางนา-ตราด ที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิทเพื่อไปยังโซนพระโขนง อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่โซนลาดกระบัง-สุวรรณภูมิ เทพารักษ์ได้ ด้วยถนนกาญจนาภิเษก และถนนกิ่งแก้ว
ซึ่งจุดเด่นของถนนบางนา-ตราด คือเป็นถนนเส้นหลักที่มีระยะทางยาวหลายสิบกิโลเมตร จึงสามารถเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลัก และเส้นรองอื่นๆได้หลายเส้นทาง พร้อมกันนั้นยังเป็นถนนที่เชื่อมกับจุดขึ้น-ลงทางด่วนหลายทางด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือทางพิเศษบูรพาวิถี
โดยทางพิเศษบูรพาวิถีเองนั้นก็เป็นทางด่วนที่ตัดผ่าน และเชื่อมโยงเข้ากับทางพิเศษสายอื่นๆ เช่น ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางด่วนพิเศษฉลองรัช ซึ่งจะผ่านหลายทำเลด้วยกันทั้ง เขตวัฒนา, เขตคลองเตย, เขตสาธร และเขตห้วยขวาง ทำให้สามารถเดินทางเข้าสู่ศูนย์กลางธุรกิจ และใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ สนามบินสุวรรณภูมิยังเพิ่มศักยภาพให้กับทำเลบางนาได้มากขึ้นอีกด้วย ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในทุกการเดินทางได้มากกว่าเดิม
Q 3 : รถไฟฟ้าที่จะตัดผ่านทำเลบางนามีกี่สาย ?
A : อีกไม่นานทำเลย่านบางนาจะเป็นอีกหนึ่งจุดเชื่อมต่อการเดินทางด้วยระบบคมนาคมทางราง ด้วยโครงการรถไฟฟ้าสายบางนา-สุวรรณภูมิ ซึ่งอยู่ในแผนแม่บทรถไฟฟ้าระยะที่ 2 หรือ M-MAP 2 โดยจะเป็นรถไฟฟ้า ประเภท Light Rail ที่เชื่อมมาจากรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิท) ที่สถานีอุดมสุข และสถานีบางนา
แนวเส้นทางจะวิ่งไปทางถนนบางนา-ตราด ระยะทางประมาณ 18.3 กม. ประกอบด้วยจำนวน 14 สถานี คาดว่าจะรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 40,000 คนต่อวัน ตั้งแต่สถานีบางนา จนไปถึงสถานีสุวรรณภูมิใต้โดยตรง สถานีศรีเอี่ยมจะเป็นสถานี Interchange เชื่อมต่อกับสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง (ถนนศรีนครินทร์) ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการได้ในปี 2564-2565 นอกจากนี้ บริเวณสถานีธนาชิตี้ จะเป็นโรงจอดรถและซ่อมบำรุง บนพื้นที่ 29 ไร่
นอกจากนั้นยังมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการที่มีความยาวประมาณ 13 กิโลเมตร แบ่งเป็น 9 สถานี ประกอบด้วย1. สถานีสำโรง 2. สถานีปู่เจ้า 3. สถานีช้างเอราวัณ 4. สถานีโรงเรียนนายเรือ 5. สถานีปากน้ำ 6. สถานีศรีนครินทร์ 7. สถานีแพรกษา 8. สถานีสายลวด 9. สถานีเคหะฯ และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่ Interchange ที่สำโรงเป็นสถานี Interchange ของรถไฟฟ้า 2 สายระหว่างสายสีเขียว (BTS) กับสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และสถานี “Interchange สำโรง” ก็เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางไม่ว่าจะออกเมืองหรือเข้าสู่ใจกลางเมืองอโศกหรือสยามสแควร์
Q 4 : “บางนา” เป็นทำเลที่มีการเจริญเติบโตสูงจริงหรือ ?
A : จากราคาประเมินที่ดินโดยกรมธนารักษ์ ตั้งแต่ปี 2539 เริ่มที่ราคา 100,000 บาท/ตารางวา และเติบโตประมาณ 5%-10% ทำให้ทำเลบางนามีการเจริญเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน รวมไปถึงอนาคตด้วย ซึ่งอัตราการเจริญเติบโตที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดอยู่ในช่วง ปี 2551 – 2554 ที่มีความเปลี่ยนแปลงถึง 15% จนมาถึง 130,000 บาท/ ตารางวา
และยังคงมีแนวโน้มของราคาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 165,000 บาท/ตารางวา ในปี 2559-2562 และเมื่อบวกกับปัจจัยแวดล้อมจาก Mega Projects ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอาจมีราคาสูงถึง 180,000 บาท/ตารางวา ในปี 2566
Q 5 : ทำไม ? ย่านบางนาถึงเหมาะกับการอยู่อาศัย
A : จากคำถามทั้ง 4 คำถามด้านบน จึงสรุปรวมมาเป็น คำถามข้อที่ 5 ว่าทำไมย่านบางนาถึงเหมาะกับการอยู่อาศัย เนื่องจากพื้นที่โดยรอบบางนาจะเดินทางสะดวกทั้งถนนสายหลักที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับถนนสายรอง และทางด่วนพิเศษต่างๆ รวมถึงใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้เกิดโครงการที่พักอาศัยทั้งแนวราบอย่างหมู่บ้านจัดสรร และโครงการที่พักอาศัยแนวสูงอย่างคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นมากมาย
พื้นที่ในโซนบางนาเองยังแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะห้างสรรพสินค้า สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล สำนักงานออฟฟิศ รวมถึงศูนย์การประชุมขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังเป็นทำเลศักยภาพเชื่อมต่อแหล่งผลิตในพื้นที่ Eastern Seaboard ซึ่งถือได้ว่าทำเลในโซนนี้เป็นศูนย์กลางของระบบเศรษฐกิจ ที่ทำให้เกิดการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญยังเหมาะแก่การอยู่อาศัยที่สามารถตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์
ทำเล “บางนา” กับ 3 โครงการที่พักอาศัยที่ดีที่สุดจาก Property Perfect
เพอร์เฟค พาร์ค บางนา
(Perfect Park Bangna)
บ้านดีไซน์ใหม่พร้อมฟังก์ชันที่มากกว่า บนที่สุดแห่งสังคมส่วนตัว เอกสิทธิ์สำหรับ 115 ครอบครัวเท่านั้น ใกล้ทางด่วนเพียง 10 นาที, ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ, Mega Bangna, Central Village และ ABAC บางนา เริ่ม 3.69-5 ล้านบาท คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติม
โมดิ วิลล่า บางนา
(Modi Villa Bangna )
ทาวน์โฮม และบ้านดีไซน์ใหม่สไตล์ยุโรป ฟังก์ชันครบครันตอบรับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ใกล้ทางด่วนเพียง 10 นาที ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ, Mega Bangna, Central Village และ ABAC บางนา เริ่ม 1.99-4 ล้านบาท คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติม
เมทโทร บิซทาวน์ บางนา
(Metro BizTown Bangna)
โฮมออฟฟิศรูปแบบใหม่ ตอบโจทย์การทำธุรกิจ และอยู่อาศัยในที่เดียวกันได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยดีไซน์สไตล์ยุโรป พร้อมที่จอดรถส่วนกลางกว่า 100 คัน
เริ่ม 3.99-6 ล้านบาท คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติม
จากการมองเห็นข้อดีบนทำเลศักยภาพย่าน “บางนา” จึงทำให้ Property Perfect เลือกที่จะมอบประสบการณ์อยู่อาศัยที่เหนือระดับให้กับกลุ่มที่ต้องการใช้ชีวิตอยู่บนทำเลทอง สามารถเดินทางสะดวก ใช้ชีวิตสบาย รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบตัว